ม่อนแจ่มเชียงใหม่ <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink468-60dis */ google_ad_slot = "9020198623"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 60; //</script><br /> --><br /><script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> <h2> <span style="color: red;">ม่อนแจ่ม</span></h2> <br /> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEip1yms4UB3Jf97wslArGr1jFLYtR3KH3lHeB0yl3SFaKzUFsI1e6Ry5TZonu9pfZi1gXOo7pQI-Gs4nrd80aGYAQl_1a9e8-OcoQOBoXTK5zOHx9Q18x6AqRNJY6CGQk3MKgbvHM8vD5SS/s1600/%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%A1.jpg" imageanchor="1"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEip1yms4UB3Jf97wslArGr1jFLYtR3KH3lHeB0yl3SFaKzUFsI1e6Ry5TZonu9pfZi1gXOo7pQI-Gs4nrd80aGYAQl_1a9e8-OcoQOBoXTK5zOHx9Q18x6AqRNJY6CGQk3MKgbvHM8vD5SS/s320/%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%A1.jpg" /></a><br /> ม่อนแจ่มตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย เพราะตอนนี้ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ กำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวทิวเขาซับซ้อน แถมยามค่ำคืนฟากฟ้าแวดล้อมไปด้วยดวงดารา ส่องแสงประกายระยิบระยับ ม่อนแจ่ม คือสถานที่พักแห่งใหม่ของโครงการหลวง เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2552 เป็นพื้นที่บนสันเขาในระดับความสูงประมาณ 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล บริเวณใกล้ ๆ ม่อนแจ่ม จะเป็นที่ตั้งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ภายในมีแปลงผักและงานวิจัยผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค, แปลงสมุนไพร เลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่, ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอว์เบอร์รีหวานฉ่ำ, แปลงผักไฮโดรโพนิค เป็นเทคโนโลยีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง และผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ให้ได้ชื่นชม หรือจะไปเดินศึกษาธรรมชาติ ณ ดอยม่อนล่อง ซึ่งเป็นจุดชมวิว ชมทะเลหมอก บนหน้าผา 1,460 เมตร มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้าง ชมพรรณไม้และดอกไม้ป่าหลากหลาย การเดินทางออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางสายแม่ริม ไปตามถนนหลวงหมายเลข 107 ไปประมาณ 15 กิโลเมตร จะเจอสามแยกเลี้ยวซ้าย ไปตามทางหลวงหมายเลข 1096 แม่ริม-สะมิง อีกประมาณ 30 กิโลเมตรจะเป็นทางแยกทางด้านขวามือ แยกเข้าไปในหมู่บ้าน ผ่านหมู่บ้านไปไม่ไกลก็จะเจอ เพราะมีป้ายบอกตลอดทาง. <br /> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink368-280 */ google_ad_slot = "4589999024"; google_ad_width = 336; google_ad_height = 280; //</script> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> ม่อนแจ่มเชียงใหม่ ม่อนแจ่ม ม่อนแจ่มตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย เพราะตอนนี้ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่… อ่านเพิ่มเติม » 11Jan2014
ดอยอ่างขาง <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink468-60dis */ google_ad_slot = "9020198623"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 60; //</script> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> <h2> <span style="color: red;">ดอยอ่างขาง</span></h2> <br /> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgYmGMVVAnTVvIUJNue1g5xre8t5KqWQDEqP6vkbAVZbyz9EfyJyIYUqVC_5n0O8s8mCiL3t-o7El_l3VopLpkyo7ScQwyhwrjkNnFb7J1D1kSU7B5DWw0hdzeOXcCvmUs6bvxjkWE5voLS/s1600-h/image%5B2%5D.png"><img alt="image" border="0" height="172" src="http://lh4.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TLo2tReoZ5I/AAAAAAAABO4/nHggpnvwdqM/image_thumb.png?imgmax=800" style="border-width: 0px; display: inline;" title="image" width="244" /></a> <br /> <span style="color: red;"><b>ดอยอ่างขาง</b> เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ </span>อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศเหนือ 137 กม.แยกซ้ายเข้าไปอีก 25 กม. มีความสูงจากระดับน้ำทะ 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร ดอยอ่างขางเป็นเทือกดอยสูงติดกับสันเขาพรมแดนประเทศพม่า จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวไปเยือนดอยอ่างขางคือการไปเที่ยวชมดอกไม้เมืองหนาวภายโครงการหลวง สถานีเกษตรดอยอ่างขางได้รับการจัดตั้งเมื่อปี 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อวิจัยพืชเมืองหนาวเพื่อส่งเสริมให้ชาวเขาปลูกทดแทนฝิ่นและหยุดการทำลายป่า <br /> <span style="color: blue;">ปัจจุบันดอยอ่างขางได้เปลี่ยนสภาพจากภูเขาซึ่งถูกตัดไม้ทำลายป่ามาเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้ผลกว่า 12 ชนิด ผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด และไม้ดอกเมืองหนาวมากกว่า 20 ชนิด สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี </span>อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16.9 องศาเซลเซียส ดอยอ่างขางมีลักษณะเป็นแอ่งที่ราบในหุบเขาลักษณะเหมือนท้องกะทะหรือเหมือนอ่าง ภายในโครงการมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาก เช่น แปลงปลูกไม้ดอกไม้ประดับกลางแจ้ง แปลงปลูกไม้ในร่ม แปลงทดลองกุหลาบ แปลงปลูกผัก แปลงปลูกผักในร่ม สวนท้อ สวนบ๊วย ป่าซากุระ ป่าเมเปิล พระตำหนักอ่างขาง <br /> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgJh7TQeyJ5I3YpPOAmlAop-mha1PzUUuDSRwxuIzEFYqxdR9Pf0FkcGz6gs9M-7gVbbSJU5o8ZJvZOBFXt7LRM0EBLPFtCMoEeU9Q9ldbyloGHKr04X_yjzZnmnCm_dHhxW4ZcEmmOIjhR/s1600-h/image%5B5%5D.png"><img alt="image" border="0" height="184" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgcEDQcLJimvjPeXU13Q67mKEm88E4mjm0lH32icV_arFZQbEuzhD4citdaZoDDwqrrUbbImIQeoILbBl5bc39ftGdWAIfr7YQR398DbKNfXWaRIZ6rHui2ot8e3_unMWQOk_ahPrvx25Y3/?imgmax=800" style="border-width: 0px; display: inline;" title="image" width="244" /></a> <br /> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink368-280 */ google_ad_slot = "4589999024"; google_ad_width = 336; google_ad_height = 280; //</script> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> <b>การเดินทางสู่ดอยอ่างขาง</b> สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง• เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง เลี้ยวซ้ายทางแยกตำบลเมืองงาย ตรงเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 1178 ผ่านบ้านอรุโณทัยไปยังศูนย์ฯ <br /> • เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ถึง กม. 137 แยกบ้านปางควาย เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1249 ตรงไปประมาณ 25 กิโลเมตร<br /> หมายเหต<b>ุ</b>- ใช้รถยนต์ได้ทุกประเภท (ควรเช็คสภาพเครื่องยนต์ก่อนขึ้นเขา และผู้ขับขี่ควรมีประสบการณ์ เพราะเส้นทางมีความชันมาก) หรือใช้บริการรถยนต์รับจ้าง จุดจอด ณ ปากทางขึ้นดอยอ่างขาง ราคาเหมา 1,000 - 1,500 บาท<br /> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjfGXt3SJdbzhFWNMPgIeH3TVcU4BndLrDvLW1PRen1qiAsBhRE069HszUIDfDqx9ghG2ZJv6roXzwrvud97eO-aFlJ6ogh4BV5YeKyS6jReEBI7G2VaSGyxNs13G50cI_TBxLK7z-11has/s1600-h/image%5B8%5D.png"><img alt="image" border="0" height="184" src="http://lh5.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TLo20v7oIqI/AAAAAAAABPI/ALEpIVJlvcY/image_thumb%5B2%5D.png?imgmax=800" style="border-width: 0px; display: inline;" title="image" width="244" /></a> <br /> <b>กิจกรรมท่องเที่ยว</b><br /> • ชมแปลงสาธิต ผัก ผลไม้ และไม้ดอกเมืองหนาวภายในศูนย์ฯ สามารถขับรถวนเป็นวงกลม ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท ยานพาหนะคันละ 50 บาท<br /> • เยี่ยมหมู่บ้านหลวง สัมผัสชีวิตชาวจีนฮ่อ <br /> • เยี่ยมหมู่บ้านนอแล สัมผัสวิถีชีวิตชาวปะหล่อง อดีตชนเผ่าดั้งเดิมของพม่า มีผลิตภัณฑ์หัตถกรรมของกลุ่มแม่บ้าน จำหน่ายและเยี่ยมฐานปฏิบัติการนอแล ชมชายแดนไทย-พม่า<br /> • เที่ยวบ้านขอบด้ง สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาเผ่ามูเซอมีมัคคุเทศก์น้อยพาเยี่ยมชมภายในหมู่บ้าน<br /> • เดินป่าระยะสั้น ชมความงามธรรมชาติของผืนป่าปลูกทดแทน<br /> • กิจกรรมดูนก ที่มีทั้งนกประจำถิ่นและนกหายากต่างถิ่นให้ศึกษาหลากสายพันธุ์<br /> • จุดชมวิว-จุดกิ่วลมชนิด เป็นลานชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตกดิน และสัมผัสทัศนียภาพของถนนทางขึ้นดอยอ่างขาง <br /> <b>ของฝาก</b><br /> • ผลิตภัณฑ์ใต้สัญลักษณ์ “ดอยคำ” มีทั้งสินค้าแปรรูป ผักสด ผลไม้ปลอดสารพิษ<br /> • ไม้ดอกเมืองหนาวจากดอยอ่างขาง<br /> • หัตถกรรมสาน ถัก จากหญ้าอิบุแค และหัตถกรรมสิ่งทอ<br /> <a href="http://lh4.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TLo22cq4mMI/AAAAAAAABPM/cRmmhUT29m4/s1600-h/image%5B11%5D.png"><img alt="image" border="0" height="184" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh1gN8f55hHOPbi_fQ41fuJ7G0wVTjHh9JggEpB0-IgTjlQvoV_Xq9LTTabDiapNMrPR327pUVp5DBPDzxbr2p4RR0cdHXm0H_kCxOTWiLkHGjMLG3gMjDoUZCEPOCtTONw-aySAxHxRlAT/?imgmax=800" style="border-width: 0px; display: inline;" title="image" width="244" /></a> <br /> <b>ที่พักและร้านอาหาร</b> บนดอยอ่างขาง <br /> • บ้านพักรับรองภายในศูนย์ฯ จำนวน 18 หลัง<br /> ขนาดพัก 2 คน ราคา 1,000-1,200 บาท/หลัง/คืน<br /> ขนาดพัก 6 คน ราคา 1,200-1,800 บาท/หลัง/คืน<br /> และขนาดพัก 40 คน ราคา 150 บาท/คน/คืน<br /> • เต็นท์บริการ ขนาด 2-3 คน ราคา 150 บาท/หลัง/คืน หากรวมถุงนอนราคา 300 บาท/หลัง/คืน ขนาด 4-5 คน ราคา 300 บาท/หลัง/คืน หากรวมถุงนอน ราคา 500 บาท/หลัง/คืน กรณีนำเต็นท์มาเองคิดค่าบริการพื้นที่คนละ 20 บาท<br /> • มีร้านอาหารและเครื่องดื่มภายในสโมสรอ่างขาง<br /> หมายเหตุ.- กรุณาสำรองที่พักล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 เดือน โทร. 0-5345-0107-9 <br /> <b>สถานที่ติดต่อ</b><br /> • สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง บ้านคุ้ม หมู่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 50320 โทร. 0-5345-0107-9 <br /> หมายเหตุ.- กรุณาสำรองที่พักล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 เดือน <br /> <b>ค่าบำรุงสถานที่เพื่อเข้าชม</b> <br /> บัตรผ่านประตู ท่านละ 30 บาท รถยนต์คันละ 50 บาท จ่ายครั้งเดียวที่ปากทางเข้า เข้าชมจุดต่างๆ ภายในโครงการได้ทุกจุด ดอยอ่างขาง ดอยอ่างขาง ดอยอ่างขาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่… อ่านเพิ่มเติม » 21Dec2013
ห้วยน้ำดัง <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink468-60dis */ google_ad_slot = "9020198623"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 60; //</script> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> <h2> <span style="color: red;">ห้วยน้ำดัง</span></h2> <br /> <b><i>อลังการทะเลหมอก</i></b> <br /> <a href="http://lh4.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TNq-7JmtTFI/AAAAAAAABW0/Q6SwZhAx3P0/s1600-h/image%5B21%5D.png"><img alt="image" border="0" height="242" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj6YpHBcPsUXhAEcgKCaWmxm6NKKSsFqTNGoB4oM19OFt7kgqy9LzOJxAz6nYxVDNmaS-4Vya0Mu9ZS1VtMi4PNLicbvU2o0R5Ye-vixphAiaKISG76AMnUK2WZFq6KOTd1yd82QUR_Y9ar/?imgmax=800" style="border: 0px; display: inline;" title="image" width="344" /></a> อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน <span style="color: red;">มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศอันร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่มีชื่อว่าทะเลหมอกที่งดงาม</span>ยิ่ง มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมียอดดอยที่มีธรรมชาติงดงามอีกหลายแห่ง เช่น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น รวมทั้งมีโป่งเดือดซึ่งเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ ส่วนการล่องแพในลำน้ำแม่แต่งก็เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 782,575 ไร่ หรือ 1,252.12 ตารางกิโลเมตร<br /> ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ประจำกรมป่าไม้ ครั้งที่ 9/2530 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2530 ให้กองอนุรักษ์ต้นน้ำ และกองอุทยานแห่งชาติประสานงานกัน จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจพื้นที่บริเวณหน่วยพัฒนาต้นน้ำที่ 2 (ห้วยน้ำดัง) จังหวัดเชียงใหม่บางส่วน เพื่อพิจารณาจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติตามข้อเสนอแนะของกองอนุรักษ์ต้นน้ำ กองอุทยานแห่งชาติได้มีหนังสือ ที่ กษ 0713/ ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2530 กรมป่าไม้ให้ นายณรงค์ เจริญไชย เจ้าพนักงานป่าไม้ 4 ไปทำการสำรวจพื้นที่ร่วมกับหัวหน้าหน่วยพัฒนาต้นน้ำที่ 2 (ห้วยน้ำดัง) หัวหน้าหน่วยพัฒนาต้นน้ำที่ 4 (แม่แจ่มหลวง) และหัวหน้าหน่วยพัฒนาต้นน้ำที่ 9 (ห้วยน้ำรู) ซึ่งได้รายงานผลการสำรวจตามหนังสือ ที่ กษ 0713(ทป)/86 ลงวันที่ 3 เมษายน 2531 แต่เนื่องจากยังขาดรายละเอียดต่างๆ และขอบเขตพื้นที่ที่เหมาะสมในการกำหนดเขตอุทยานแห่งชาติ ประกอบกับวนอุทยานโป่งเดือด จังหวัดเชียงใหม่ มีหนังสือ ที่ กษ 0713(ปด)/10 ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2531 แจ้งว่า เนื้อที่ใกล้เคียงวนอุทยานมีความเหมาะสมที่จะรวมกับพื้นที่หน่วยพัฒนาต้นน้ำ ที่ 2 (ห้วยน้ำดัง) จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ <br /> <a href="http://lh5.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TNq-_HHq9RI/AAAAAAAABW8/rTib16Cv6C4/s1600-h/image%5B25%5D.png"><img alt="image" border="0" height="246" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi0B-uoBXMlzzT-Kg9n3TBJp4qS7obFeImjqDR09iBDzP4_Wkow5-qLxN7uVnpbloKHmA8QKbKKZ8skOiU7oroXNsPfv5l0oilGp1hfC5OTCqJyY7gCNauVJTAquJxvVwO8YrFVX_4kJ-tg/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: inline;" title="image" width="344" /></a> <br /> <div style="float: left;"> <br /> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink368-280 */ google_ad_slot = "4589999024"; google_ad_width = 336; google_ad_height = 280; //</script> </div> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script><span style="color: blue;">จุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง อยู่บริเวณที่ทำการอุทยาน เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก มองเห็นดอยเชียงดาว คอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้ และในช่วงปลายฤดูหนาวดอกไม้กำลังบานสวยงามมาก</span><br /> หมอกที่เกิดที่นี่คือ หมอกที่เกิดขึ้นในหุบเขา (Radiation Fog) เนื่องจากเวลากลางคืนในหุบเขาอุณหภูมิจะลดต่ำลง ทำให้เกิดการกลั่นตัวเป็นละอองน้ำ และปรากฏเป็นทะเลหมอกในเวลาเช้าหรือหลังฝนตก ใกล้ ๆ กับที่ทำการจะมี เส้นทางศึกษาธรรมชาติเอื้องเงิน มีระยะทาง 1,470 เมตร ความลาดชันปานกลาง ใช้เวลาในการเดินประมาณ 1 ชั่วโมง<br /> การเดินทาง ไปยังอุทยานฯ จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ระยะทางประมาณ 37 กิโลเมตร ถึงตลาดแม่มาลัย อ.แม่แตง แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1095 สายเชียงใหม่-ปาย อีกประมาณ 65 กิโลเมตร ถึงด่านตรวจอุทยานฯ ซึ่งอยู่ด้านขวามือเข้าไปอีก 6 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ และหากเดินทางต่อไปอีก 1 กิโลเมตร ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือเดินทางโดยรถประจำทางจากสถานีขนส่งเชียงใหม่ สายเชียงใหม่-ปาย อัตราค่าโดยสาร 40 บาท/คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง<br /> ห้วยน้ำรู หรือ ดอยสามหมื่น ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว มีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซอ ทัศนียภาพสวยงาม และชมการปลูกกาแฟและไม้ผลเมืองหนาว<br /> การเดินทาง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 130 กิโลเมตร ใช้ถนนสายเชียงใหม่-ห้วยน้ำดัง และเลยเข้าไปทางห้วยน้ำดังอีก 20 กิโลเมตร ทางยังไม่ลาดยางใช้ได้เฉพาะฤดูแล้งเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง มีบ้านพักแต่ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน ที่ส่ วนอนุรักษ์ต้นน้ำ บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 0 2579 7586-7<br /> นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยู่ในเขตอุทยานฯ ได้แก่ น้ำตกห้วยน้ำดัง โป่งน้ำร้อนท่าปาย น้ำตกแม่เย็น <br /> <a href="http://lh6.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TNq_D13YtVI/AAAAAAAABXE/F33kr1rDnF0/s1600-h/image%5B17%5D.png"><img alt="image" border="0" height="242" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhWFZSrzBwrfAcDRDyeG0vd9MgBvxb3TZ_UTW2vfwYzYsrFFA1hbhHWpOZdD5L81QIQOIEvMABk0jZXAE0N9no8UgwXF_Pzxf-W2qYW-Iq33b8LQWUEbx8bl69kD94EpHPoyPw9H8xF1cTV/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: inline;" title="image" width="344" /></a> <br /> ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท<br /> ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก อุทยานฯมีบ้านพักบริการ รวมทั้งสถานที่กางเต็นท์ ร้านอาหาร และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว รายละเอียดติดต่อ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง หมู่ที่ 5 ตำบลกี๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 50300 โทร. 0 5326 3910, 0 5354 8491, 0 5347 1669 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. 0 2562 0760 <br /> อุทยานแห่งชาติจะทำการปิดลานกางเต็นท์ที่ 1-5 บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เส้นทางเดินป่าล่องแพน้ำแม่แตง เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยช้าง และเส้นทางศึกษาธรรมชาติเอื้องเงิน ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายนของทุกปี<br /> ก่อนการเข้าไปท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวควรมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ โดยดูได้จากเว็บไซต์ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช dnp .go.th และแนะนำนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติที่มี การกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวไว้ ให้ติดต่อสอบถามหรือสำรองการเข้าไปใช้บริการล่วงหน้าก่อนการเดินทางที่ อุทยานแห่งชาติโดยตรงได้ที่ อุทยา นแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 0 5326 3910 ตลอด 24 ชั่วโมง และ 0 5324 8491 ระหว่าง 08.00-17.00 น. <br /> <br /> <br /> ห้วยน้ำดัง ห้วยน้ำดัง อลังการทะเลหมอก อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จัง… อ่านเพิ่มเติม » 21Dec2013
ปาย <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink468-60dis */ google_ad_slot = "9020198623"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 60; //</script><br /> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> <h2> <span style="color: red;">ปาย</span></h2> <br /> <a href="http://lh4.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TMapN46mFwI/AAAAAAAABTU/lbrLYH4E3vQ/s1600-h/image%5B3%5D.png"><img alt="image" border="0" height="234" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhlQ1gw9B26lxe9fr61OUis9YZ3bkORhQAfo2l7OSbIE5cOPRmyYUyguGkiuI0ZkTb-51QEw3WKdVgIVUX-eJw4tc7vqDeXGLq4-64vlKBDaFnW7LW1Jdr9b0eu7Kz5wyC8n6GVRcgYeZf0/?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="311" /></a><br /> <span style="color: blue;"><b>ปาย</b> เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมไปท่องเที่ยว กันเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูหนาว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ </span>ปายเป็นอำเภอขนาดเล็กทางตอนเหนือของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวชมความงามตามธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยขุนเขา สูงตระหง่านเป็นรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ฤดูหนาวอากาศเย็นจัด เมืองเล็กๆแห่งนี้มักปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจางๆยามเช้า บรรยากาศอันเงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม กับแสงแดดอุ่นๆ ที่ทอดผ่านม่านหมอกหนา แลเห็นต้นสนไม้ยืนต้นเมืองหนาวสูงใหญ่เป็นทิวแถวตามเชิงเขา วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน ด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้ ปายได้ดึงดูดนักเดินทางรวมทั้งตัวผมเองให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งนี้<br /> <span style="color: red;">สภาพภูมิศาสตร์ ของอำเภอ ปายเป็นที่ราบแอ่งกระทะ ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำหลายสาย คือ น้ำปาย น้ำของ และน้ำแม่ปิงน้อย อีกทั้งมีลำห้วยอีกหลายสาย คือ ห้วยแม่เมือง ห้วยแม่เย็น และห้วยแม่ฮี้</span><br /> <a href="http://lh5.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TMapQ-QL1kI/AAAAAAAABTg/cOHSBOE0aDQ/s1600-h/image%5B4%5D.png"><img alt="image" border="0" height="260" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhjEh5llJRjGh3cNaNyi9leCFr6bR_FjcezE-ccRDCHGt7IbK1_m9pdaZLbG-27mQz7wOyySYFFegs_TljxLbV5IiEIoPjr_3QgZDWP_7_HZffAkQUnvlIwUon2ss4sF2SLGoUqkJp8cKPP/?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="344" /></a> <br /> อำเภอปายตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด แม่ฮ่องสอนมีอาณาเขตติดต่อกับเขตข้างเคียง ดังนี้<br /> ทิศเหนือ ติดต่อกับเมืองปั่น จังหวัดตองยี รัฐฉาน (ประเทศพม่า) <br /> ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาว และอำเภอแม่แตง (จังหวัดเชียงใหม่) <br /> ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอสะเมิงและอำเภอกัลยาณิวัฒนา (จังหวัดเชียงใหม่) <br /> ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนและอำเภอปางมะผ้า<br /> ภูมิศาสตร์ <br /> เป็นที่ราบแอ่งกระทะ ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำหลายสาย คือ น้ำปาย น้ำของ และน้ำแม่ปิงน้อย อีกทั้งมีลำห้วยอีกหลายสาย คือ ห้วยแม่เมือง ห้วยแม่เย็น และห้วยแม่ฮี้<br /> <br /> <b><span style="color: red;">สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ</span></b><br /> <br /> <b><span style="color: blue;">น้ำตกหมอแปง </span></b> อยู่ที่หมู่ที่ 4 บ้านหมอแปง ตำบลแม่นาเติง เดินทางจากเส้นทางอำเภอปาย-แม่ฮ่องสอน มีทางแยกซ้ายจากถนนใหญ่เข้าไป 6 กิโลเมตร เป็นถนนคอนกรีตถึงบริเวณแก่งเมืองปายรีสอร์ท จากนั้นจะเป็นทางลูกรัง 2 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวนิยมเช่าจักรยานและจักรยานยนต์มาเที่ยวชม หรือใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ น้ำตกหมอแปงเป็นน้ำตกขนาดเล็กไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง สูงประมาณ 5 เมตร บรรยากาศร่มรื่น ในบริเวณใกล้ๆมีชาวเขาเผ่ามูเซอแดงอาศัยอยู่<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">วัดน้ำฮู </span></b>อยู่ที่บ้านน้ำฮู หมู่ที่ 5 ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย ห่างจากตัวอำเภอไปทางทิศตะวันตกประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานของพระอุ่นเมือง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม (ศิลปะล้านนา) ปางมารวิชัยทำด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ ประวัติการสร้างไม่แน่นอนแต่เชื่อกันว่าสร้างโดยพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นพระราชกุศลถวายพระพี่นางพระสุพรรณกัลยา พระพุทธรูปองค์นี้พระเศียรกลวง ส่วนบนปิดเปิดได้และมีน้ำขังอยู่เสมอ นักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปนมัสการพระอุ่นเมือง ต้องขออนุญาตจากเจ้าอาวาสเพื่อเปิดโบสถ์เสียก่อน<br /> <br /> <b>เจดีย์พระธาตุแม่เย็น </b> อยู่ที่บ้านแม่เย็น ตำบลแม่ฮี้ ตามเส้นทางสายแม่ฮ่องสอน - ปาย เป็นเจดีย์ที่สร้างสมัยใดไม่ปรากฏ ตั้งอยู่บนเนินสูงและเมื่อขึ้นไปนมัสการองค์พระธาตุแม่เย็น จะมองเห็นทิวทัศน์ของอำเภอปายโดยทั่วถึง เป็นจุดสังเกตของผู้โดยสารเครื่องบินว่าเข้าเขตอำเภอปายแล้ว<br /> <br /> <b>โป่งน้ำร้อนท่าปาย</b> อยู่ในป่าแม่ปายฝั่งซ้ายตอนบนท้องที่ตำบลแม่ฮี้ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1095 (ปาย - แม่มาลัย) ข้ามสะพานแม่น้ำปายถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 87 - 88 แยกซ้ายเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร ตามทางเข้าบ้านท่าปาย เป็นทางลาดยางตลอดทั้งสาย มีหมอกควันปกคลุมพื้นที่ และมีน้ำร้อนไหลผ่านทั่วบริเวณกว้าง มีบ่อใหญ่สองบ่อ นอกนั้นเป็นน้ำผุดหลายจุด ความร้อนประมาณ 80 องศาเซลเซียส รอบๆ โป่งน้ำร้อนเป็นป่าไม้สัก ภายในบริเวณอนุญาตให้ตั้งเต็นท์พักแรมได้ แต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้น<br /> <br /> <div style="float: left;"> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink368-280 */ google_ad_slot = "4589999024"; google_ad_width = 336; google_ad_height = 280; //</script> </div> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> --><br /> <script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script><br /> <b>น้ำตกแม่เย็น</b> สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาและมีความอดทนสูง น้ำตกแม่เย็นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการท่องเที่ยวธรรมชาติ อ.ปาย เพราะต้องเดินทางเท้าเป็นระยะทางค่อนข้างไกล ใช้เวลาเดินทางไป-กลับประมาณ 8 กม. (3-5 ชั่วโมง) แต่เมื่อได้ไปเห็นความงามของน้ำตกแล้วก็เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อย<br /> <br /> <b>กองแลน</b> เป็นลักษณะของผืนดินที่ถูกกัดเซาะเป็นร่องลึกคล้ายหน้าผาติดต่อกันเป็นบริเวณ กว้างประมาณ 5 ไร่เศษครับ (คล้ายกับแพะเมืองผีของจังหวัดแพร่) สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาลครับ ตั้งอยู่ในเขตบ้านร้องเหย่ง ห่างจากอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้โดยทางหลวงหมายเลข 1095 (ปาย-แม่มาลัย) บริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 88 อยู่ทางด้านขวามือ และต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร<br /> <br /> <b>น้ำพุร้อนเมืองแปง</b> ยู่บริเวณบ้านเมืองแปง ตำบลเมืองแปง เป็นบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ ห่างจากอำเภอปายประมาณ 29 กิโลเมตร อุณหภูมิร้อนประมาณ 95 องศาเซลเซียส และเดือดพลุ่งขึ้นเป็นระยะๆ<br /> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEizpVY0-ok7vgHqZdzT9GzmOlM07Ju3yNIhQi4E-RWAQrIrQLuvAMxczQcyU5VEMr2c0Ada0_k6Pflz-YtgohoE-iXA8aB3HOe_uyBl5Wiuw8yp4u-c5_MLdyCqWT0Ply9KilfvTriccbg-/s1600-h/image%5B5%5D.png"><img alt="image" border="0" height="259" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhmUdtovUII0oc0uKtG8SZ4faIcQSyfVM_woUAr2ceqHMM6CJS-8B3FFOcreZh-2aoaBEc58zqdGyK148aQ9fDqr_5e6bWS1hmTNOcty_JL7MYBUUfPLsSlUXjPo8Rd2Gr64Zy_mE-k3g6e/?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="344" /></a><br /> <b><br /></b> <span style="color: red;"><b>ถนน</b><b>คนเดิน ปาย</b>จะเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว<b> </b> เปิดในช่วงเย็น มีสินค้ามากมาย มาวางขายและร้านรวง ต่างๆ มากมาย เช่น เสื้อยืด ของที่ระลึก ขนมขบเคี้ยวต่างๆ มากมาย ราคาสมควรตามความพอใจของผู้ซื้อซึ่งอาจมีราคาสูงกว่าแหล่งอื่นๆ ค่ะ ช่วงฤดูหนาวที่ถนนคนเดินปายจะเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว</span><br /> <br /> <b>แม่น้ำปาย </b> เป็นแม่น้ำที่ใหญ่และยาวที่ สุดของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เกิดจากทิวเขาถนนธงชัยและทิวเขาแดนลาวในเขตอำเภอปายไหลผ่าน 3 อำเภอในจังหวัดเดียว คือ อ.ปาย-อ.ปางมะผ้า-อ.เมือง ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน แต่ละช่วงมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม แล้วไหลลงมาทางทิศใต้ผ่านอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ไปบรรจบกับแม่น้ำสาละวิน (แม่น้ำคง) ในเขตรัฐคะยา สหภาพพม่า มีความยาวประมาณ 180 กิโลเมตร กว้างประมาณ 30 เมตร และลึกประมาณ 7 เมตร ท้องน้ำมีลักษณะเป็นกรวดทราย และในฤดูแล้งน้ำลึกประมาณ 1 เมตร ตลอดลำน้ำปายนี้สามารถล่องแพได้ การล่องแก่งแม่น้ำปาย รวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ระดับความยากของแก่งมีตั้งแต่ระดับ 1-4 ช่วงฤดูฝนอาจถึงระดับ 5 ซึ่งมีความยากมากและระดับน้ำรุนแรง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและความสนุกสนานตลอดสายน้ำ เช่น เล่นน้ำตกซู่ซ่า ผจญภัยในถ้ำ แช่ตัวใบบ่อโคลน กระโดดหน้าผาสูง ช่วงเวลาที่หมาะสมกับการล่องแก่ง คือ เดือน มิถุนายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี มีโปรแกรม ทั้ง 2 วัน 1 คืน และ 1 วัน ราคาประมาณ 1,500 บาท ต่อคน การล่องแก่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่น <br /> สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกเช่น<br /> <b>สะพานข้ามแม่น้ำปาย </b><br /> <b>หมู่บ้านจีนยูนนาน </b><br /> <b>วัดกลาง </b><br /> <b>วัดพระธาตุศรีวิชัย </b><br /> <b>ห้วยจอกหลวง :หมู่บ้านกะเหรี่ยงแม่ปิง </b><br /> <br /> <b>การเดินทางไป ปาย </b><br /> จากกรุงเทพฯ<br /> - มีรถโดยสารประจำทางปรับอากาศของบริษัทเอกชน ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร ทุกวันๆ ละ 1 เที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เมืองเหนือยานยนต์โทร. 0 2936 3587-8 <br /> จากเชียงใหม่ <br /> <a href="http://lh5.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TMapau88FcI/AAAAAAAABUE/Sk_tWSVs92M/s1600-h/image%5B6%5D.png"><img alt="image" border="0" height="259" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiuuOaSLQrKMhnKHy32uBJIstyd1yvAeWwFH4x3MEsLToA0eSqlH6ji9DOJVY2uvOmcf53yO0fkWjJk30adefNRSebHCcjLPXcUXG1zhuYew8x03c-u3YVdu5LVvziSPOvjZeUyc_h0PE-K/?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="344" /></a><br /> จากเชียงใหม่ ขับรถยนต์มาเอง เดินทางจากเชียงใหม่ไปปาย ด้วยเส้นทางหลวง 107 ผ่านอำเภอแม่ริม จนถึงอำเภอแม่แตง การเดินทางไปปาย ผ่านแยกแม่มาลัยเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 1095 สู่ถนนเส้นแม่มาลัย-ปาย ระยะทางประมาณ 103 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นถนนลาดยางตลอดเส้นทาง การเดินทางไปปาย แม้จะมีความคดเคี้ยวสูงชัน แต่ทิวทัศน์สองข้างทาง ที่ให้มุมมองแบบสูง ก็ทำให้เพลิดเพลินไปอีกแบบนึง <br /> <a href="http://lh5.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TMapdaT1KNI/AAAAAAAABUU/qLToT-JooDg/s1600-h/image%5B7%5D.png"><img alt="image" border="0" height="259" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjrSkJgqY65G2rdVA4a_mQx5rqBIqYFjxF8oMg7SG03HyAybvviRyrdNzc256OE_KORLIOVTXR3g07f4FHoOJKpA_8dkhDezKOljI1YkDxrFiC8Ey-XucvHRdnHg9gMZ54PnQbhYrLUyeWm/?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="344" /></a> จากเชียงใหม่ <br /> - มีรถโดยสารประจำทางทั้งธรรมดาและปรับอากาศ วิ่งบริการ 2 เส้นทาง คือ<br /> 1. สายเชียงใหม่-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน มีบริการวันละหลายเที่ยว ตั้งแต่เวลา (ทางหลวงหมายเลข 108) 06.30-21.00 น. ใช้เวลาเดินทางถึงอำเภอ แม่สะเรียง 4 ชั่วโมง ถึงแม่ฮ่องสอน 8 ชั่วโมง<br /> 2. สายเชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน มีบริการวันละหลายเที่ยว ตั้งแต่เวลา (ทางหลวงหมายเลข 107 และ 1095) 07.00-12.30 น. ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 6 ชั่วโมง (เชียงใหม่ ถึง แม่ฮ่องสอน) รายละเอียดติดต่อ <br /> สถานีขนส่งอาเขต โทร. 0-5324-2664 <br /> บริษัทเปรมประชาขนส่งจำกัด เชียงใหม่ 0-5324-4737, 0-5330-4748 <br /> เครื่องบินไปปาย<br /> SGA เครือ นกแอร์ บิน ไปกลับ เชียงใหม่ - ปาย , เชียงใหม่ - ปาย ทุกวัน วันละ 2 รอบ เพียง 30 นาที มีแค่ 12 ที่นั่ง โทร.02-164-1001-6 พร้อมที่พักปายในราคาแพ็คเก็จ<br /> บนเครื่องยามเครื่องจะล่อนลง คุณจะได้ชมวิวทุ่งนาและขุนเขาจากมุมสูง หาชมที่ไหนไม่ได้แน่ ได้ภาพประทับใจไปอีกแบบ <br /> <br /> ปาย ปาย ปาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมไปท่องเที่ยว กันเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูหนาว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ปายเป็นอำเภอขนาดเ… อ่านเพิ่มเติม » 20Dec2013
ดอยอินทนนท์ <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink468-60dis */ google_ad_slot = "9020198623"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 60; //</script><br /> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> <br /> <h2> <span style="color: red;">ดอยอินทนนท์เชียงใหม่</span></h2> <br /> <div align="center"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWp_QvLym1nV4m8gRHMd1YaSWXsTR_-oQQO6Ur3HnHSXnaTt18vaidQ1fs_GHxEYzIKLdBeWm_Hz1nN3h31OuMm58lLNjO1icXLF2Sgip6F7DKpK0WIjA3SSiyms6hM5Vm-dT4EuTBvrdL/s1600-h/image%5B7%5D.png"><img alt="image" border="0" height="184" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj4zjM9q_z9SA_nbSoWzd48TJZ2Y5sLPeN5Yv4hKB48oOuCQ-xOvCjTGca3fj-tIc8PxG9ivOW6Zwo8YqYX6BWicQgPLVJRysFIHyNb2L8Rj1qsHLDiRnPruB4s1m2YemfLrAFnRSD48iXG/?imgmax=800" style="border-width: 0px; display: inline;" title="image" width="244" /></a> </div> <span style="color: red;"><b>อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์</b> เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อ พ.ศ.2515 ประกาศเป็นอุทยานฯ เป็นลำดับที่ 6 ของประเทศไทย มีพื้นที่ 482.4 ตารางกิโลเมตร </span>ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่มอำเภอแม่วาง และกิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ดอยอินทนนท์แต่เดิมดอยนี้มีชื่อว่า "ดอยหลวง" หรือ "ดอยอ่างกา" ดอยหลวง มาจากขนาดของดอยที่ใหญ่มาก ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "ดอยหลวง" (หลวง: เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ใหญ่) ดอยอ่างกา มีเรื่องเล่าว่า ห่างจากยอดดอยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 300 เมตร มีหนองน้ำแห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่าง ฝูงกาจำนวนมากมายมักพากันไปเล่นน้ำที่หนองน้ำแห่งนี้ จึงพากันเรียกว่า "อ่างกา" และภูเขาขนาดใหญ่แห่งนั้นก็เลยเรียกกันว่า "ดอยอ่างกา" แต่ก็มีบางกระแสกล่าวว่า คำว่า "อ่างกา" นั้น<br /> แท้จริงแล้วมาจากภาษาปกาเกอญอ (กะเหรี่ยง) แปลว่า "ใหญ่" เพราะฉะนั้นคำว่า "ดอยอ่างกา" จึงแปลว่า<b>ดอยที่มีความใหญ่</b>นั่น เอง ดอยอินทนนท์ อดีตกาลก่อนป่าไม้ทางภาคเหนืออยู่ในความควบคุมของเจ้าผู้ครองนครต่าง ๆ สมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ (องค์สุดท้าย) พระองค์ให้ความสำคัญกับป่าไม้อย่างมาก โดยเฉพาะป่าในบริเวณดอยหลวง ทรงรับสั่งว่า หากสิ้นพระชนม์ลงให้นำอัฐิบางส่วนขึ้นไปสร้างสถูปบรรจุไว้บนดอย ดอยนี้จึงมีนามเรียกขานว่า "ดอยอินทนนท์" แต่มีข้อมูลบางกระแสกล่าวว่า ที่ดอยหลวงเรียกว่า ดอยอินทนนท์ นั้น เป็นเพราะเนื่องจากว่าเป็นการให้เกียรติ เจ้าผู้ครองนคร จึงตั้งชื่อจากคำว่า "ดอยหลวง" ซึ่งเป็นชื่อที่มีความซ้ำกับดอยหลวง ของอำเภอเชียงดาว แต่ภายหลังมีชาวเยอรมัน มาทำการสำรวจและวัด ซึ่งปรากฎผลว่า ดอยหลวง หรือดอยอ่างกา ที่อำเภอแม่แจ่มมีความสูงกว่า ดอยหลวง ของอำเภอเชียงดาว จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ เพื่อไม่ให้มีความซ้ำซ้อนกัน และเรียกดอยแห่งนี้ว่า<b> "ดอยอินทนนท์"</b> อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เดิมเป็นส่วนหนึ่งของ "ป่าสงวนแห่งชาติดอยอินทนนท์" ต่อมาได้ถูกสำรวจและจัดตั้งเป็นหนึ่งในสิบสี่ ป่าที่ทางรัฐบาลให้ดำเนินการเป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งครั้งแรกกรมป่าไม้เสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดพื้นที่อุทยานแห่ง ชาติดอยอินทนนท์ให้มีพื้นที่ 1,000 ตร.กม. หรือประมาณ 625,000 ไร่ แต่เนื่องจากพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ อาศัยอยู่ก่อนหลายชุมชน จึงทำการสำรวจใหม่ และกันพื้นที่ที่ราษฎร อยู่มาก่อน และคาดว่าจะมีปัญหาในอนาคตออก จึงเหลือพื้นที่ที่จะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 270 ตร.กม. หรือประมาณ 168,750 ไร่ ประกาศลงวันที่ 2 ตุลาคม 2515 และในวันที่ 13 มิถุนายน 2521 รัฐบาลประกาศพื้นที่เพิ่มอีกเป็น <b>482.4 ตร.กม.</b> อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และกิ่งอำเภอดอยหล่อ มีความสูงจากระดับน้ำทะลปานกลาง 400-2,565.3341 เมตร เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย สำหรับวัตถุประสงค์ในการกำหนดที่ดินให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 หมวด 1 มาตรา 6 ดังนี้ "เมื่อ รัฐบาลเห็นสมควรกำหนดบริเวณที่ดินแห่งใดมีสภาพธรรมชาติเป็นที่น่าสนใจ ให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติเดิมเพื่อสงวนไว้เป็นประโยชน์แก่การศึกษาและ รื่นรมย์ของประชาชน ก็ให้มีอำนาจกระทำโดยประกาศพระราชกฤษฎีกาด้วยบริเวณที่กำหนดนี้เรียกว่า อุทยานแห่งชาติ" <br /> ถ้าต้องการสอบถามรายละเอียด บ้านพัก ที่กางเต็นท์ การท่องเที่ยว สอบถามได้ที่ 086-919-3589 หรือใน www.doiinthanon.com <br /> <br /> <i>ลักษณะภูมิประเทศ</i> <br /> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhZ2PRYxMg1qidY5oXpxVpNonnFdK4bZPdqc0D9d0dEYl_YtKVPIYAMLEvJmQpSyUPtF-k3dm24QcLzY1FZwNyeIn51lh-ho4wmNk-AJOKoCPMSFDeEbMrLiXbZsSGN1qfjOniKONrjzpqh/s1600-h/image%5B32%5D.png"><img alt="image" border="0" height="259" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGB1cCQGY9E0kt1ENvZzCxbJMkdQfOCbsyFcBuEST8AHcA7RghbPQTZtLscPtZKt85Dg-NmbTpKPgyHLDw_5IdaUAWUGyfKoaZQ8VlFdlwZ81HJ6ljUO9MMxWAawYLeFE-OAm4LbYICLQZ/?imgmax=800" style="border-width: 0px; display: inline;" title="image" width="344" /></a> <br /> <span style="background-color: #eeeeee;"><span style="color: blue;">สภาพภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขาสูงสลับ ซับซ้อน เป็นส่วนหนึ่งของแนวเขตเทือกเขาถนนธงชัยที่ทอดตัวตามแนวเหนือ-ใต้ ทอดตัวมาจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศเนปาล มีระดับความสูงของพื้นที่อยู่ระหว่าง 400-2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยจุดสูงสุดอยู่ที่ยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นจุดที่สูงสุดในประเทศไทย ยอดเขาที่มีระดับสูงรองลงมา คือ ยอดดอยหัวหมดหลวง สูง 2,330 เมตร ยอดดอยหัวหมดน้อย สูง 1,900 เมตร ยอดดอยหัวเสือ สูง1,881 เมตรจากระดับน้ำทะเล </span></span><br /> ลักษณะโครงสร้างทางธรณีของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์โดยทั่วไป ประกอบด้วยหินที่มีอายุตั้งแต่ยุคแคมเบรียนขึ้นไป และหินส่วนใหญ่จะเป็นหินไนส์และหินแกรนิต ส่วนหินชนิดอื่นๆ ที่พบจะเป็นหินยุคออร์โดวิเชียนซึ่งได้แก่หินปูน จนถึงยุคเทอร์เซียรี่ได้แก่หินกรวดมน <br /> อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำปิง ให้กำเนิดแม่น้ำลำธารหลายสาย ที่สำคัญได้แก่ ลำน้ำแม่วาง ลำน้ำแม่กลาง ลำน้ำแม่ยะ ลำน้ำแม่หอย ลำน้ำแม่แจ่ม และลำน้ำแม่เตี๊ยะ ซึ่งลำน้ำเหล่านี้จะไหลผ่านและหล่อเลี้ยงชุมชนต่างๆ ในเขตอำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอฮอด อำเภอแม่วาง และอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วไหลลงสู่แม่น้ำปิง <br /> <i>ลักษณะภูมิอากาศ</i> <br /> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgOGusVWtVuwmKdtMYI7eU8CNepXeqDhSgMW6apQeD8XosFz3DrPESTTYh2xcPGW3gEu08XESbLAnndcrL4W80Yp6tv3NNQ2y-U5yJHxJjt3HJG6JwyXfw_icgrTQvd0EJYV71WjIxAM_nO/s1600-h/image%5B21%5D.png"><img alt="น้ำตกแม่ยะ" border="0" height="262" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiFPoutS5AKNqV9EfYD5pVVjPebRJPw9XUvwQKPNebLahOIIceLc_9BWEtgoQF7QqBzlxIO3Xemh2AkMMwJspgWNNQ4dZQlsI2q7JlATlr7uB0eCK7j7DUX68rWYXN3M5QpMFWqLjioGIrn/?imgmax=800" style="border-width: 0px; display: inline;" title="น้ำตกแม่ยะ" width="344" /></a> <br /> สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปของพื้นที่อุทยาน แห่งชาติดอยอินทนนท์ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดพาเอาความ ชุ่มชื้นและเมฆฝนเข้ามาทำให้ฝนตก และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดมาจากประเทศจีนจะนำเอาความหนาวเย็นและ ความแห้งแล้งเข้ามา ทำให้เกิดฤดูกาลต่างๆ โดยจะมีฤดูร้อนในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ฤดูฝนในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน และฤดูหนาวในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ สลับกันไป แต่เนื่องจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีความหลากหลายทางด้านระดับ ความสูง ทำให้ลักษณะอากาศในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยจะมีลักษณะของสภาพอากาศแบบเขตร้อนในตอนล่างของพื้นที่ที่ระดับความสูงจาก น้ำทะเลต่ำกว่า 1,000 เมตรลงมา มีสภาพอากาศแบบกึ่งเขตร้อนในบริเวณตอนกลางของพื้นที่ที่มีระดับความสูงจาก น้ำทะเลระหว่าง 1,000-2,000 เมตร และมีสภาพอากาศแบบเขตอบอุ่นในพื้นที่ที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเลกว่า 2,000 เมตรขึ้นไป<br /> <div style="float: left;"> <br /> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink368-280 */ google_ad_slot = "4589999024"; google_ad_width = 336; google_ad_height = 280; //--></script></div> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script>ในพื้นที่สูงตอนบนของอุทยานแห่งชาติ โดยทั่วไปแล้วจะมีสภาพที่ชุ่มชื้นและหนาวเย็นตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณยอดดอยอินทนนท์ซึ่งมีลักษณะเป็นสันเขาและยอดเขา จะมีกระแสลมที่พัดแรงและมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นมาก และในช่วงวันที่หนาวจัดในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม อุณหภูมิจะลดต่ำลงถึง 0-4 องศาเซลเซียส และจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้น ที่ระดับกลางของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สภาพอากาศโดยทั่วไปจะมีลักษณะค่อนข้างเย็นและชื้น อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 20 องศาเซลเซียส ในช่วงฤดูหนาวในเดือนธันวาคม-มกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 15-17 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,000-2,100 มิลลิเมตร/ต่อปี สำหรับในพื้นที่ที่มีระดับความสูงตั้งแต่ 1,800 เมตรขึ้นไป จะมีสภาพอากาศที่เย็นและชุ่มฉ่ำอยู่ ทั้งนี้เพราะจะเป็นระดับความสูงของเมฆหมอก ทำให้สภาป่ามีเมฆและหมอกปกคลุมเกือบตลอดปี <br /> <i>พืชพรรณ ธรรมชาติ และสัตว์ป่า</i> <br /> สังคมพืชในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์สามารถจำแนกออกเป็น <br /> <a href="http://lh5.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TL24QaDOf1I/AAAAAAAABRM/rpY2bQjV19A/s1600-h/image%5B20%5D.png"><img alt="image" border="0" height="208" src="http://lh5.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TL24TE4XaTI/AAAAAAAABRU/uOI3CAR3ATA/image_thumb%5B8%5D.png?imgmax=800" style="border-width: 0px; display: inline;" title="image" width="344" /></a> <br /> <b>ป่าเต็งรัง</b> พบกระจายทั่วๆไปในพื้นที่รอบๆ อุทยานแห่งชาติในระดับความสูงจากน้ำทะเล 400-750 เมตร ตามเนินเขาหรือสันเขาที่แห้งแล้ง หรือตามด้านลาดทิศตะวันตกและทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติ ชนิดไม้ส่วนใหญ่ประกอบด้วย เต็ง รัง เหียง พลวง ก่อแพะ รกฟ้า รักใหญ่ ยอป่า มะขามป้อม ฯลฯ พืชอิงอาศัยพวกเอื้องแซะ เอื้องมะขาม เอื้องแปรงสีฟัน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีพวกมอส ไลเคน นมตำเลีย เกล็ดนาคราช ฯลฯ ส่วนพืชพื้นล่างจะเป็นไม้พุ่ม หญ้าชนิดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญ้าคา ไม้เถา และพืชล้มลุกชนิดต่างๆ ป่าเบญจพรรณ พบกระจายอยู่ทั่วพื้นที่รอบๆ อุทยานแห่งชาติในชั้นระดับความสูง 400-800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตามที่ลุ่มหรือตามแนวสองฝั่งของลำห้วย พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ สัก ตะแบก ประดู่ แดง มะเกิ้ม สมอไทย กาสามปีก สลีนก กระบก ซ้อ นอกจากนี้ยังมีไผ่ชนิดต่างๆ พืชอิงอาศัย เช่น เอื้องช้างกระ เอื้องขี้หมา ส่วนพืชพื้นล่างส่วนใหญ่จะเป็นพวกไม้พุ่ม หญ้าคา หญ้าแฝก หญ้าชนิดอื่นๆ ไม้เถา และพืชล้มลุกชนิดต่างๆ มากมายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ที่น่าสัมผัสยิ่ง<br /> <b>ป่าดิบแล้ง</b> พบกระจายเป็นหย่อมเล็กหย่อมน้อยในระดับความสูง 400-1,000 เมตร ตามบริเวณหุบเขา ริมลำห้วย และสบห้วยต่างๆ พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ยางปาย ยางแดง ยางนา ตะเคียนทอง ก่อเดือย ก่อหยุม ก่อลิ้ม ประดู่ส้ม มะไฟป่า ชมพู่น้ำ ไทรย้อย เดื่อหูกวาง พืชพื้นล่างเป็นพืชที่ชอบขึ้นในที่มีความชื้นสูง เช่น กล้วยป่า หญ้าสองปล้อง เหมือดปลาซิว ตองสาด กระชายป่า ข่าลิง ผักเป็ดไทย ออสมันด้า กูด เฟิน ปาล์ม หวายไส้ไก่ หมากป่า และเขือง เป็นต้น <br /> <br /> <b>ป่าดิบเขาตอนล่าง</b> เป็นป่าธรรมชาติที่พบในพื้นที่ที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเล 1,000-1,800 เมตร หรือในบริเวณตอนกลางของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกทำลายจากชาวเขาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ทำให้มีป่าที่มีอยู่เป็นป่าที่กำลังฟื้นสภาพ หรือป่ารุ่นใหม่ จะมีป่าดิบเขาดั่งเดิมเหลืออยู่บ้างเพียงเล็กน้อย สภาพโดยทั่วไปของป่าดิบเขาในพื้นที่ดอยอิทนนท์จึงมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับ ระบบและวิธีการฟื้นฟูของสังคมพืช ชนิดป่าที่พบที่สำคัญได้แก่ ป่าสนล้วน ป่าก่อผสมสน ป่าก่อ และป่าดิบเขาดั่งเดิม พันธุ์ไม้เด่นที่พบได้แก่ สนสามใบ สารภีดอย เหมือดคนตัวผู้ ก่อแป้น ก่อใบเลื่อม กอเตี้ย ก่อแดง ก่อตาหมูหลวง ก่อนก ทะโล้ จำปีป่า กำลังเสือโคร่ง กล้วยฤาษี นมวัวดอย ฯลฯ <br /> <br /> <b>ป่าดิบเขาตอนบน</b> ขึ้นอยู่ในพื้นที่ที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเล 1,800 เมตรขึ้นไป สามารถแบ่งออกได้เป็น ป่าดงดิบ-ป่าก่อชื้น ป่าดงดิบ เขตอบอุ่น และป่าพรุเขตอบอุ่น สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าที่มีต้นไม้สูงใหญ่ และหลายแห่งจะมีลักษณะของป่าดึกดำบรรพ์ พืชพื้นล่างจะไม่แน่นทึบ ทำให้ตามกิ่ง ยอด และลำต้นของไม้ในป่าจะมีมอส กล้วยไม้ เฟิน กุหลาบพันปี สำเภาแดง ขึ้นปกคลุม พันธุ์ไม้ในป่าดิบเขาหรือป่าก่อชื้นได้แก่ ก่อดาน ก่อแอบ จำปีหลวง แกง นางพญาเสือโคร่ง กะทัง นอกจากนี้ยังมีไม้พุ่มและไม้เกาะเกี่ยวเช่น คำขาว กุหลาบขาว คำแดง และยังมีต้นโพสามหาง กระโถนฤาษี เป็นต้น ในบริเวณแอ่งน้ำและรอบๆ ป่าพรุจะมีหญ้าชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่ เช่น บัวทอง พญาดง เทียน ผักหนอกดอย มะ แหลบ วาสุกรี บันดงเหลือง ต่างไก่ป่า กุง กูดขน ฯลฯ และบริเวณชายขอบป่าพรุจะมีกุหลาบพันปีสีแดง ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ที่เกิดขึ้นตสใธรรมชาติพบเฉพาะบนยอดดอยอินทนนท์เท่านั้น <br /> สัตว์ป่าในบริเวณอุทยานแห่งชาติที่นี้มีจำนวนลดลงไปมาก เนื่องจากถูกชาวเขาเผ่าต่างๆ ล่าเป็นอาหาร และป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยถูกถางลงมาก ทำให้สัตว์ใหญ่บางชนิดหมดไปจากป่านี้ สัตว์ที่เหลืออยู่ส่วนมากเป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่น กระรอก กระแตธรรมดา กระเล็นขนปลายหูสั้น อ้นเล็ก เม่นหางพวง อีเห็นข้างลาย ชะมดแผงสันหางดำ นกแซงแซวเล็กเหลือบ นกปรอดหัวสีเขม่า นกเด้าดินทุ่ง เหยี่ยว เพเรกริน ไก่ฟ้าหลังขาว นกเงือกคอแดง นกพญาไฟสีกุหลาบ กิ้งก่าหัวสีฟ้า จิ้งเหลนเรียวจุดดำ ตุ๊กแกบ้าน งูลายสอคอแดง กบห้วยสีข้างดำ เขียดหนอง อึ่งกราย คางคกเล็ก ปาดแคระฯลฯ แต่อย่างไรก็ตาม พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ยังคงความสำคัญในด้านของการเป็นแหล่งของนก ป่าที่สำคัญของประเทศไทย และเป็นแหล่งของสัตว์ป่าที่หายาก และมีอยู่เฉพาะถิ่นอยู่หลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ หนูหญ้าดอย กระท่าง เต่าปูลู นกศิวะหางสีน้ำตาล นกปีกสั้นสีนำเงิน นกกระจิ๊ดคอสีเทา และนกกินปลีหางยาว <br /> <br /> ข้อมูล:http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=1&lg=1<br /> <div class="wlWriterEditableSmartContent" id="scid:0767317B-992E-4b12-91E0-4F059A8CECA8:3442ff85-ec3d-470d-aaea-d34ae62b3a4d" style="display: inline; float: none; margin: 0px; padding: 0px;"> <br /></div> <br /> ดอยอินทนนท์ ดอยอินทนนท์เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อ พ.ศ.2515 ประกาศเป็นอุทยานฯ เป็น… อ่านเพิ่มเติม » 19Dec2013
ภูกระดึง <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink468-60dis */ google_ad_slot = "9020198623"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 60; //</script><br /> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> <h2> <span style="color: red;">ภูกระดึง</span></h2> <br /> <img alt="image" border="0" height="184" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEijqn5OlEvfMprEKEZDGt8Fi4CBS1yDjRhPt7frKG6pFSmPQJiXVYuFRIfGB8etQBp0f9LBPBVHZ4PXTiOxaMd5gyw5ir8MAOI68LF6ZoCpdVbB0ZpQhyphenhyphenMwvDTzzKPVHUlYzGL9sSBa8J1H/?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="344" /> <br /> ภูกระดึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และขึ้นชื่อในเรื่องของความยากลำบากในการเดินทางขึ้นไปพิขิตยอดภู เนื่องจากระยะทางเดินขึ้นมีความสูงชัน ซึ่งความยากลำบากในการเดินทางขึ้นถือว่าเป็นบทพิสูจน์ความอดทนและหากผู้ใด ที่มากับคู่รักยิ่งถือเป็นการพิสูจน์ความรักแท้ ประกอบกับยอดภูเป็นที่ราบกว้างใหญ่ หากมองจากมุมสูงจะเห็นพื้นที่ราบยอดเขาตัดมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ ดังนั้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างสถาบันครอบครัว และระลึกถึงความรัก ปัจจุบันได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวติดท็อปในประเทศไทยเลยล่ะ แต่ที่ภูกระดึงนี้มีตำนาน<br /> ของ รักแท้ เนื้อคู่ พรหมลิขิต ทิ้งเอาไว้ ทำให้ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างพากันมาพิสูจน์รักแท้ที่นี้กัน รู้ซึ้งถึงความลำบากในการขึ้นเขาที่ชัน น้ำใจ ความเสียสละ คนรักที่เป็นคู่จึงมักจะพากันมาลองพิสูจน์ที่นี่ ปีนี้อากาศที่ภูกระดึงอากาศหนาวเย็นมากๆ <br /> <a href="http://lh5.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TLxrTpTK8HI/AAAAAAAABQQ/UsZmZn40LbE/s1600-h/image%5B9%5D.png"><img alt="image" border="0" height="172" src="http://lh5.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TLxrWAF0uPI/AAAAAAAABQU/S98YGKj6BFo/image_thumb%5B5%5D.png?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="344" /></a> <br /> ภูกระดึงคือภูเขาลูกหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเลย มีความแตกต่างจากภูเขาอื่นๆตรงที่อุดมสมบูรณ์ประกอบไปด้วยไม้ป่านานาชนิดมาก มายตามฤดูกาลในประเทศไทย มีน้ำตกลำธารทีสวยหนาแน่นไปด้วยป่าไม้สภาพอากาศดี<br /> จากการเล่าลือกันมาแต่โบราณว่า มีผู้ได้ยินเสียงระฆังของพระอินทร์ที่อยู่บนเขานี้ดังนั้นจึงให้ชื่อว่า ภูกระดึง หรือ ภูกะดึง เพราะคำว่า “ภู” หมายถึง ภูเขา และ “กระดึง” มาจาก “กระดิ่ง” ภาษาพื้นเมืองจังหวัดเลยแปลว่า “ระฆังใหญ่”นอกจากนี้เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาบางส่วนหากเดินหนักๆ หรือใช้ไม้กระทุ้งก็จะมีเสียงก้องคล้ายระฆัง ซึ่งเกิดจากโพรงข้างใต้ จึงได้รับขนานนามว่า “ภูกระดึง <br /> <br /> <br /> <br /> <br /> <br /> <br /> <dd>อุทยาน แห่งชาติภูกระดึง อยู่ในท้องที่อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ประกอบด้วยภูเขา ที่มีธรรมชาติอันสวยสดงดงาม ที่ราบบนยอดภูกระดึงมีสังคมพืชเป็นสังคมของพืชเมืองหนาว ได้แก่ ป่าสนสองใบ ป่าสนสามใบ ป่าต้นเมเปิล (ไฟเดือนห้า) และพันธุ์ไม้ดอกที่สวยงาม เช่น กุหลาบป่า ม้าวิ่ง เอื้องคำหิน ดอกม่วนดักหงาย เป็นต้น ตลอดจนมีธรรมชาติ บรรยากาศ และทิวทัศน์ที่สวยงามหลายแห่ง มีเนื้อที่ประมาณ 348.12 ตารางกิโลเมตร หรือ 217,576.25 ไร่</dd> <br /> <b>ลักษณะภูมิประเทศ</b> <br /> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhISeUaRsYcN5upOGVY6vNAoJnPzN5FJkPHXHcfZK0tKvd5ORhqMqSfE8UqOx87S0Mh8HOOfILfT7w4tJLDXL0ccNvXki87ii5gHH7JYv5qD106Eifz_1Bp91DOb5VwvCne51dnzsp9A7Ly/s1600-h/image%5B13%5D.png"><img alt="image" border="0" height="196" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiJeOVIoxG4wMq8-5gHpXaRBmjXo11QehwsJmNtRm8KGpkNaRhLJxANneJ5k52wNz1rOPv2D8BSTls9nFcgsetMSEr4k7g6clmTI_1Jfnvo-u4fYAIbiL_z_2UgrL-VvD1wmQwFfxNKbqll/?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="344" /></a> <br /> <br /> <br /> <div style="float: left;"> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink368-280 */ google_ad_slot = "4589999024"; google_ad_width = 336; google_ad_height = 280; //</script> </div> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script><br /> <br /> <br /> <br /> <br /> <dd>สภาพ ทั่วไปของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นภูเขาหินทรายที่มีพื้นที่ราบบนยอดเขากว้างใหญ่สลับกับเนินเตี้ย ๆ ยอดสูงสุดคือ ภูกุ่มข้าว สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,350 เมตร เป็นแหล่งกำเนิดของลำน้ำพอง ซึ่งหล่อเลี้ยงเขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนหนองหวาย ในจังหวัดขอนแก่น ยอดภูกระดึงประกอบไปด้วยป่าสนสลับป่าก่อและทุ่งหญ้า มีพันธุ์ไม้ดอก ไม้ใบ ขึ้นอยู่ทั่วไปตามบริเวณน้ำตก ลำธาร และลานหิน ซึ่งธรรมชาติได้สร้างสรรค์ไว้อย่างสวยงามยิ่ง <br /> <b>ลักษณะภูมิอากาศ</b></dd><dd><img alt="image" border="0" height="162" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgsZ9lYje8mDi2-a-07uTKVHnFU9GqN0hRmwKehpBUjGDk_HVuVxUTBp0jX4QjjraLW5xZEbZTafVhBUVmHiljWpyWO3LIPsHdRv1NelGen0Duc8CCQ7waGKyWY9Tb1z-r12KEfrI53x1Eu/?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="344" /> </dd><dd>สภาพ อากาศบนภูกระดึงเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 องศาเซลเซียส ในฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นมากจนบางครั้งอุณหภูมิลดต่ำลงถึง 0 องศาเซลเซียส ช่วงฤดูฝนอากาศแปรปรวน บ่อยครั้งมีหมอกและเมฆฝนลอยต่ำ ฝนตกชุกทำให้เกิดภัยธรรมชาติบางประการ เช่น ดินถล่มตามลาดหน้าผาสูงชัน และน้ำป่าไหลรุนแรงตามลำธารเชิงเขา จึงกำหนดให้ปิด-เปิดการท่องเที่ยว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และให้สภาพป่ามีการพักฟื้น หลังจากนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมอย่างมากในแต่ละปี ดังนี้ </dd><dd>ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี </dd><dd>เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี </dd><br /> <br /> ภูกระดึง ภูกระดึง ภูกระดึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และขึ้นชื่อในเรื่องของความยากลำบากในการเดินทางขึ้นไปพิขิตยอดภู เนื่องจากระยะทาง… อ่านเพิ่มเติม » 18Dec2013
ภูชี้ฟ้า <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink468-60dis */ google_ad_slot = "9020198623"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 60; //</script> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> <h2> <span style="color: red;">ภูชี้ฟ้า</span></h2> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> </div> <div style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"> <img alt="image" border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhDOg35sejdTKhTsIyRFx4hpjnDJJYFFQW_dh-tzW2oDhC9lFcw_vbBp4kh_XYmPWtHoxTD8TYOqNZCOhacpwSyJTGmn92zAgSMHFLPenEH6VSdQDMSulv78I-_idU-Ik-gFMC0QDkjdVup/?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="320" /> </div> <div style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"> <br /></div> <div style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"> </div> <br /> <span style="color: red;">วนอุทยานภูชี้ฟ้า เชียงราย เป็นส่วนหนึ่งของดอยผาหม่น อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กิโลเมตร เภูชี้ฟ้า มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร ป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามราวภาพวาด ด้วยทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล</span><br /> <span style="color: red;">การจะเดินขึ้นไปชมทะเลหมอกควรจะขึ้นไปยอดภูตั้งแต่ฟ้ายังมืด เพราะเมื่อฟ้าเริ่มสว่างจะทำให้เห็นสายหมอกค่อย ๆ ก่อตัวเป็นภาพต่าง ๆ ดูสวยงามราวกับมีช่างวาดฝีมือมาแต่งแต้ม สร้างความประทับใ</span>จไปอีกนาน <img alt="image" border="0" height="174" src="http://lh4.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TLwQ_E0D08I/AAAAAAAABP0/EoRRdtlcNKY/image_thumb%5B3%5D.png?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="320" /> <br /> <span style="background-color: #eeeeee;">บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้าง แซมด้วยทุ่งโคลงเคลงที่มีดอกสีชมพูอมม่วง </span>ซึ่งจะบานระหว่างเดือนกรกฎาคม-เดือนมกราคม ในอดีต เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของ พคท. ด้วยสภาพภูมิประเทศที่สูงชัน จึงเป็นฐานที่มั่นที่สำคัญ ชาวลาวและชาวไทย ในพื้นที่เรียกผาหินที่ชี้เหยียดตรงขึ้นไปบนฟ้าว่าภูฟ้า เมื่อปัญหาด้านความมั่นคงคลี่คลาย มีการตัดถนนขนานแนวชายแดน ไทย-ลาว จากบ้านผาตั้ง ภูชี้ฟ้า ไปถึง อ.เชียงคำ ภูชี้ฟ้าจึงเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม บนยอดภูชี้ฟ้า เป็นจุดที่ยื่นจากแนวเขตพรมแดน จึงไม่สามารถระบุชัดได้ว่า อยู่ในเขตไทยหรือลาว แต่ทางขึ้นสู่ยอดภูชี้ฟ้านั้นอยู่ในเขตไทย เคยมีการปักธงชาติไทยบนปลายสุดของหน้าผา แต่ในวันถัดมา ทหารลาวก็จะนำธงลาวมาปักเคียงคู่กันด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงห้ามนักท่องเที่ยวพักแรมบนภูชี้ฟ้า<br /> <img alt="image" border="0" height="240" src="http://lh5.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TLwRDXRDWsI/AAAAAAAABP8/ymcw6NHawmM/image_thumb%5B6%5D.png?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="320" /> <br /> <b>แหล่งท่องเที่ยว: </b><br /> <span style="color: blue;">ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น สูงจากระดับน้ำทะเล 1,628 เมตร ด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีหน้าผาสูงชัน เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ในฤดูหนาวจะมีทิวทัศน์สวยงามเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาค้างแรมบริเวณบ้านร่มฟ้าทองทางห่างจากจุดชมวิวประมาณ 1.5 กิโลเมตร แล้วจะเดินขึ้นภูชี้ฟ้าเพื่อไปชมวิวตอนเช้ามืด ระหว่างทางจะพบแปลงปลูกป่านางพญาเสือ ออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม</span> (เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์) และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ต้นเสี้ยวดอกขาวรอบภูชี้ฟ้าจะออกดอกบานเต็มเชิงเขา กิจกรรม : ชมพรรณไม้ แค็มป์ปิ้ง ชมทิวทัศน์ (ผาชี้ฟ้า เป็นหน้าผาหินที่มีลักษณะโดดเด่น คือ คล้ายนิ้วชี้ที่ชี้ตรงออกไปยังทิศตะวันออก ภูชี้ฟ้าอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 1,628ม. จากระดับน้ำทะเล หน้าผาหินเป็นทางลาดชัน ปกคลุมด้วยหญ้า ไม้พุ่ม และโขดหิน ไม่มีไม้ใหญ่ขึ้นเลย สามารถเดินลัดเลาะไปจนถึงสุดปลายของหน้าผา ที่ยื่นออกไปได้ แต่จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพ จะเป็นหมู่หินใหญ่ริมหน้าผา ก่อนถึงปลายสุดของภูชี้ฟ้าประมาณ 300 ม. ชมทะเลหมอก จากภูชี้ฟ้า สามารถมองลงไปเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขา ในเขต ต.เชียงตอง ฝั่งลาว และเทือกเขาสลับซับซ้อน ไกลออกไปลิบๆ คือแม่น้ำโขง ที่ไหลขนานไปกับเทือกดอยผาหม่น ในช่วงเช้าตรู่ หุบเขาเบื้องล่างจะปกคลุมด้วยสายหมอก ทิวทัศน์จะยิ่งงดงาม เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ภูชี้ฟ้าหันไปทางทิศตะวันออก จึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่ได้รับความนิยมมาก นักท่องเที่ยว จะออกจากที่พัก เริ่มเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิว ตั้งแต่ก่อนสว่าง)<br /> <img alt="image" border="0" height="217" src="http://lh3.ggpht.com/_V3IXsNQulCI/TLwRIOF6OSI/AAAAAAAABQE/0TxtlE9yYSw/image_thumb%5B7%5D.png?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="320" /> <br /> <b>การเดินทาง</b><br /> <b>ทางรถยนต์ส่วนตัว </b>การเดินทางไปยังภูชี้ฟ้า ได้สามเส้นทาง คือ 1.เส้นทางด้าน อ.เทิง 2.เส้นทางผ่าน อ.เชียงของ 3.เส้นทางจาก อ.เชียงคำ<br /> 1. เส้นทางแรกใกล้และสะดวก สภาพถนนดี รถเก๋งสามารถไปถึงได้ จากสี่แยกแม่กรณ์ตัวเมืองเชียงราย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 (เชียงราย-เทิง) ระยะทาง 64 กม. ถึง อ.เทิง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1021 (เทิง-เชียงคำ) อีก 6 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 ที่หลัก กม.94 (สามแยกปางค่า) เป็นทางลาดยางแต่ค่อนข้างแคบ คดเคี้ยวไปตามไหล่เขา ผ่านปางคำ บ้านรักถิ่นไทย บ้านรักแผ่นดิน และบ้านแผ่นดินทอง เมื่อถึงหลัก กม.25 (ให้เลี้ยวขาวสามแยกบ้านเชงเม้ง) จะเป็นทางโค้งขึ้นเขาชัน มีแยกขวามือ เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1093 ซึ่งจะเลียบแนวชายแดนไทย-ลาว ไป อ.เชียงคำ จ.พะเยา ผ่านบ้านราษฎร์ภักดี (บ้านเช็งเม้ง) ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวม้ง ระยะทางรวม 11 กม. มีทางแยกซ้ายมือ มีป้ายบอกทางไปยังจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ทางช่วงนี้ลาดยางเรียบ แต่สูงชันและคดเคี้ยว ระยะทาง 1.7 กม. ผ่านที่ทำการวนอุทยานภูชี้ฟ้า ไปสิ้นสุดที่ลานจอดรถ จากจุดนี้ เดินเท้า 760 เมตร<br /> 2. หากมาจาก อ.เชียงของ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 (เชียงของ-เทิง) ระยะทาง 15 กม. จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1155 มีป้ายบอกทางไปภูชี้ฟ้า เห็นได้ชัดเจน ระยะทาง 95 กม. ขับรถตามทางหลวงหมายเลข 1155 ผ่าน อ.เวียงแก่น (กม.70) สามแยกบ้านปางหัด ทางแยกขึ้นดอยผาตั้ง (กม.52) เมื่อถึงหลัก กม.42 เป็นถนนลูกรังอัดแน่นไปจนถึงหลัก กม.28 จากนั้นถนนจะไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 1093 ตรงหลัก กม.27 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1093 ไปภูชี้ฟ้า อีก 11 กม. เช่นเดียวกับเส้นทางจาก อ.เทิง<br /> <div style="float: left;"> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "ca-pub-6828142925824455"; /* cleverthink368-280 */ google_ad_slot = "4589999024"; google_ad_width = 336; google_ad_height = 280; //</script> </div> --> <script src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script> 3. เส้นทางมาจาก อ.เชียงคำ จ.พะเยา ทางหลวงหมายเลข 1021 ให้เลี้ยงเข้าเส้นทางไปน้ำตกภูซาง หลวงหมายเลข 1093 ผ่านน้ำตกภูซาง (น้ำตกอุ่น) -ผ่านตลาดนัดไทย-ลาว.บ้านฮวก (เปิดทุกวันที่ 10,20,30) –ผ่านเกษตรที่สูงผาหม่น (ดอกทิวลิป ม.ค.-ก.พ.) และเดินทางเข้าสู่ภูชี้ฟ้า<br /> ** ถ้าไปเที่ยวชมดอยผาตั้ง ก็สามารถเดินทางต่อไปภูชี้ฟ้าได้ แต่ควรใช้รถกระบะ หรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะถนนค่อนข้างคดเคี้ยวสูงชัน บางช่วงเป็นลูกรังอัด โดยจากดอยผาตั้ง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1093 ระยะทางประมาณ 20 กม. ผ่านหมู่บ้านตามแนวชายแดน คือ บ้านร่มฟ้าผาหม่น ร่มฟ้าไทยงาม ร่มฟ้าหลวง ศูนย์ศิลปาชีพบ้านร่มฟ้าทอง สภาพเส้นทางเป็นถนนลาดยาง สลับกับลูกรังอัดเป็นช่วงๆ ไปบรรจบกับทางแยกซ้ายทางหลวงหมายเลข 1093 (ไปเกษตรที่สูงผาหม่น-ตลาดนัดไทย-ลาว.บ้านฮวก-น้ำตกภูซาง, อ.เชียงคำ จ.พะเยา) ซึ่งผ่านทางแยกขึ้นภูชี้ฟ้าได้อีกเส้นทางหนึ่ง<br /> <img alt="image" border="0" height="216" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgzT5myHvqN2jK9QA6X_OIbrpxSwWXZv1VpWnqZLicBFvkSAlkMOIbZrA_CpgjXCa6ezx9kOKzuURTn9fH6Wd3wOS0DnUz7nO1jcv6BIgjLHD8nX-l4vJfi7vZv3utLiU2IPj84HOUCuAux/?imgmax=800" style="border: 0px none; display: inline;" title="image" width="320" /><br /> <b>รถประจำทาง</b> นั่งรถบัสสีฟ้าขาว สายเชียงราย-เทิง-เชียงคำ หรือ เชียงราย-เทิง-เชียงของ จากนั้นต่อรถสองแถวสีฟ้าสายเทิง-ปางค่า ท่ารถอยู่หลังตลาด อ.เทิง เข้าทางเข้าวัดพระนาคแก้ว ด้านข้างที่ว่าการอำเภอมีรถตั้งแต่ 06.00 น. เวลาออกไม่แน่นอน ต้องถามคนขับว่า จะไปภูชี้ฟ้าหรือไม่ ค่ารถ 50 บาท หรือเช่ารถสองแถว คิวรถอยู่หลังตลาดเทิง<br /> <br /> ภูชี้ฟ้า ภูชี้ฟ้า วนอุทยานภูชี้ฟ้า เชียงราย เป็นส่วนหนึ่งของดอยผาหม่น อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กิโลเมตร เภูชี้ฟ้า มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้… อ่านเพิ่มเติม » 22Nov2013